- แวะทำบุญไหว้พระสักหน่อย ไม่หน่อยล่ะ ลึกเชียวกว่าจะถึง https://t.co/nga7Sk5LEy 10:33:22
- เสร็จจากที่นี่จะไปธุระต่อ นัดนี้เจอโควิด เลื่อนมาเกือบปีเลย https://t.co/AFu8YO8rmv 11:26:43
- แวะกินผัดไทยเจ้าอร่อยในซอยนี้ ถูกด้วย อร่อยด้วย https://t.co/ZDVoe2pUQK 17:04:51
- พักที่เดิม เหมือนปีก่อนๆ งีบเอาแรงสักชั่วโมงค่อยไปตามนัด https://t.co/ud5SzwOxLw 17:10:00
- มาทะเลเดือนนี้ ไม่ควรจะมีฝนแล้วไม่ใช่หรือ แต่ยังเห็นเมฆฝนอยู่ไกลๆ https://t.co/ZHVMrF2yvr 17:12:13
- หันกลับมา ดูท่ารอดยากแล้วล่ะ คงได้ลุยฝนออกไปแน่ๆ https://t.co/KYNE2ndCdX 17:13:42
- @gumpun หิวข้าวรึป่าว in reply to gumpun 08:39:26
- ช่วงนี้บางครั้งก็ต้องหยุดทุกอย่าง นั่งหลับตาแล้วบอกตัวเองว่า ทีละเรื่อง ไม่ต้องร้อนรน ทำอย่างนั้นสักห้านาทีถึงไปต่อ… https://t.co/7kQEPU416E 18:11:50
- บอกเด็กๆ สัปดาห์นี้หยุดสอนทั้งสัปดาห์ ให้ได้หยุดปิดเทอมกัน แต่ที่จริงลุงไม่ว่างเลยสักวัน สัปดาห์นี้คิวแน่นมาก 18:21:24
- @yuposyy ใช่ครับ in reply to yuposyy 07:09:49
หลายๆท่านคงจะพบปะสังสรรค์ปัญหาเกี่ยวกับวันที่กันบ้างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Y2K ซึ่งฝรั่งตาน้ำข้าวมันหลอกชาวโลกทั้งหลายให้หลงคารมมาแล้ว แต่ บ่ มีอะในกอ ไก่ ขอ ไข่ มีแต่เสียตัง โดยส่วนตัว Y2K หรืออะไรพวกนี้ถ้าเรากำหนดการป้อน ปี เป็นแบบ 4 หลักแล้วปัญหาก็ไม่มี เราจะใช้คำสั่งกำหนด ปีเป็น 4 หลัก ดังนี้
SET CENTURY ON
แต่ประเด็นที่เราจะมาดูกันคือ จะทำอย่างไรกับฟิลด์วันที่ดี แล้วอยากจะให้วันที่เป็นแบบที่เราต้องการ (ผู้เขียนต้องการต่างหาก)
อยากให้ฟิลด์วันที่ แสดงเป็น วันที่แบบ ไทยๆ เช่น 10 กันยายน 2543 (วันครบรอบ 2 ขวบ ของ web site ไวเหมือนใจนึก)
เมื่อเข้าไปป้อนอยากป้อนสั้นๆ แค่ 10/09/2543
แล้วถ้าผู้ใช้ป้อน เป็น 2000 ก็ให้แปลงมาเป็น 2543 ให้ด้วยก็ดี
พอป้อนเสร็จก็ให้แสดงกลับเป็นอย่างเก่า 10 กันยายน 2543
และสิ่งที่ขาดมิได้คือตรวจสอบการป้อนวันที่ว่าถูกต้องหรือเปล่า
เมื่อเผลอไป zap ข้อมูลอันเป็นสุดที่รัก (โอ้ลัลลลล…ล้าาาา) จ๊ากๆๆๆๆ
สร้างฟอร์มแล้วกำหนด ตารางฐานข้อมูลใน DataEnviroment แล้วต่อมาต้องทำการย้ายฐานข้อมูลไปอยู่ directory อื่น?
สำหรับท่านที่สร้างฟอร์มโดยใช้ DataEnvironment เพื่อกำหนดตาราง วิว และความสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อใช้ในฟอร์ม ตอนสร้างมันจะจำ path ของ directory นั้นไว้เมื่อเรานำโปรแกรมที่สร้างเสร็จแล้วไปแจกจ่ายแล้วเปลี่ยน directory เป็นชื่อใหม่ หรือเขียนโปรแกรมบน Drive C: แล้วเปลี่ยนใจอยากจะทำระบบเป็นแบบ Client Access โดย ก๊อบปี้เฉพาะฐานข้อมูลไปไว้ที่ LAN ส่วนโปรแกรมก็ไว้ที่ Drive C: ซึ่ง directory ตอนแรกกับหลังจากย้ายแล้วไม่ตรงกันเป็นต้น หรือทำอย่างไรก็ได้ ที่ทำให้มันเกิด error ตามภาพด้านล่างนี้
แสดงว่าฟอร์มนั้นหา ฐานข้อมูลชื่อ mydatabase.dbc ไม่เจอ …. แล้วเราจะจัดการกับมันอย่างไรดีล่ะ?
Window API เป็นฟังก์ชันภายนอกชนิดหนึ่งที่มีมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows ที่เราใช้กันอยู่อย่างแพร่หลายในขณะนี้ ซึ่งก็คล้ายๆกับฟังก์ชันของ Visual FoxPro อันที่จริงแล้วฟังก์ชันภายนอกต่างๆนั้นมีอยู่มากมายที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น Active X Control, ฟังก์ชันที่สร้างขึ้นโดยใช้ภาษา C แล้ว Compile เป็นไฟล์ .DLL (Dynamic Link Library) , Visual FoxPro External Library ไฟล์ .FLL ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้เราจะเรียกฟังก์ชันหรือโปรแกรมเหล่านั้นว่า API (Application Programming Interface) ทั้งสิ้น
มีความจำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องใช้คำสั่ง Window API ?
ในการเขียนระบบงานหรือโปรแกรมขึ้นนั้นเราไม่จำเป็นต้องเรียกใช้งานฟังก์ชันของ Window API ก็ได้ แต่เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมหรือเมื่อโปรแกรมของคุณต้องมีการติดต่อระหว่างระบบปฎิบัติการ คุณก็สามารถทำการเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆเหล่านั้นได้ตามความเหมาะสม
อาจช้าไปบ้างสำหรับเรื่องวิธีการใช้งาน Project Manager ซึ่งบางท่านถ้าทราบอยู่แล้วก็ผ่านไปได้ ไม่ต้องอ่านก็ได้ ในบทนี้จะเป็นการแนะนำการใช้งานเท่านั้นเอง ขอย้ำเฉพาะมือใหม่
ในสมัยก่อนนั้นเราใช้งาน Foxbase รุ่นแรกๆ เราก็ทำการสร้างองค์ประกอบต่างๆเช่น โปรแกรม ฐานข้อมูล รายงาน เมนู กันเองซึ่ง Foxbase รุ่นแรกๆไม่มีเครื่องมื่อในการจัดการ บางท่านก็ใช้วิธีการสร้าง sub-directory เพื่อทำการการจัดหมวดหมู่ แยกแยะว่ากลุ่มนี้เป็น ข้อมูล กลุ่มนี้เป็นโปรแกรม เป็นต้น ต่อมาพอมาถึง รุ่นที่เป็น FoxPro ก็เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกนี้ขึ้นมา ซึ่งก็เรียกว่า catalog manager ผมเข้าใจว่าคงเรียนแบบ dBASE IV มากกว่า ต่อมาใน Visual FoxPro ก็มีเหมือนกันแต่เป็นชื่อเสียใหม่เป็น Project Manager ผมว่าชื่อนี้แหละเหมาะสมดี ซึ่งตัวนี้แหละเป็นตัวจัดการในการทำงานของเราตั้งแต่เริ่มต้น จนจบถึงขั้นสร้างระบบงานแล้วนำมันไปแจกจ่ายใช้งาน
ส่วนช่วยเหลือ(Help) เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ในยุคแรกที่ยังใช้ DOS เป็นระบบปฎิบัติการจะเป็นแบบ .DBF-Style Help พอเริ่มเข้ามาสู่ในยุคของ Windows ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ Graphical Help ครั้นเข้าสู่ยุคของ Internet ก็ได้เกิดมี HTML Help ซึ่งก็คือ help ที่สร้างโดยใช้ภาษา HTML(Hypertext Markup Language) สำหรับหนังสือเล่มนี้จะอธิบายการสร้างส่วนช่วยเหลือในแบบ HTML Help
ก่อนที่ท่านจะทำการสร้างส่วนช่วยเหลือได้นั้นจำเป็นจะต้องมีโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างก่อน ซึ่งเราไม่สามารถสร้างโดยใช้โปรแกรม Visual FoxPro ได้โดยตรง สำหรับโปรแกรมที่เราจะใช้มีชื่อว่า HTML Help Workshop
รายงานถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งของระบบงาน การสร้างโปรแกรมสำหรับพิมพ์รายงานโดยหลักทั่วๆไปแล้วจะประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 3 ส่วนคือ
1. ส่วนของการรับข้อมูล ส่วนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นฟอร์มที่จะรอรับข้อมูลที่ผู้ใช้งานป้อนเข้าไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ป้อนไปประมวลผลในการออกรายงาน
2. ส่วนของการประมวลผลข้อมูล ในส่วนนี้จะเป็นการนำข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนข้อมูลจากฟอร์ม มาประมวลผลเพื่อให้ได้ข้อมูลตามต้องการ
3. ส่วนของรายงาน เป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลแล้วแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆตามที่ต้องการ เช่นแสดงที่จอภาพ ,เครื่องพิมพ์ หรือ เก็บเป็นแฟ้มข้อมูล
จากที่กล่าวมาข้างต้นรายงานบางแบบอาจมีวิธีการนอกเหนือจากนี้ก็ได้