Category: สู่เส้นทางดิจิตอล
If someone want to test wpi on windows 10…here what you need to edit:
installer.js from WPIScripts, line 1400, replace with
if (getOSver() == "Win7" || getOSver() == "Win8" || getOSver() == "Win8.1" || getOSver() == "Win10")
core.js, line 583, replace with
if (getOSver() == "XP" || getOSver() == "Vista" || getOSver() == "Win7" || getOSver() == "Win8" || getOSver() == "Win8.1" || getOSver() == "Win10")
wmi.js
line 71, add this
if (Caption.indexOf("10") != -1) { szOSVerCache = "Win10"; szEditionIDCache = getOSsku(OSSKU); }
NOTE: The download links given in this article will always download offline installers for the latest version of Google Chrome.
We all know about Google’s official web browser Google Chrome which has become very popular among all Internet users. It’s very fast and provides several useful features.
When you start downloading Google Chrome on your computer, it downloads a very small 1 MB online installer (also known as stub installer or net installer). When you run the downloaded installer, it again starts downloading the required setup files of Chrome from Google servers as the online installer doesn’t contain all required program files.
โอนทุกสาย (Forward All Call):
– Activate (สมัครใช้บริการ): *21*[เบอร์ปลายทาง]*11#
– Cancel & Retain (ยกเลิกและบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ): #21*11#
– Re-establish (สมัครบริการอีกครั้งจากข้อมูลที่บันทึกไว้): *21*11#
– Cancel & Forget (ยกเลิกบริการและลบข้อมูลออกจากระบบ): ##21*11#
– Status(ดูสถานะ): *#21*11#
ตั้งไป +66800000000 แบบนี้ใครโทรเข้ามาก็จะตัดไป “หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดบริการในระบบ…”
คอนโทรล MSComm
สำหรับการใช้งาน Visual Basic ตั้งแต่เวอร์ชัน 2 เป็นต้นมา ใน Visual Basic จะมีคัสตอมคอนโทรลสำหรับการสื่อสารอนุกรมผ่านทางพอร์ตอนุกรมของคอมพิวเตอร์มาให้ โดยใน Visual Basic เวอร์ชัน 2 และเวอร์ชัน 3 จะใช้ชื่อว่า MSCOMM.VBX ส่วนเวอร์ชัน 4 ใช้ชื่อว่า MSCOMM16.OCX สำหรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการ 16 บิตและ MSCOMM32.OCX สำหรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการ 32 บิต สำหรับใน Visual Basic เวอร์ชัน 5 จะมีเพียง MSCOMM32.OCX เท่านั้นเพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ 32 บิต
MSComm จัดเตรียมทางเลือกเอาไว้ 2 ทางเพื่อความสะดวกในการสื่อสารข้อมูล ทางแรกคือ การสื่อสารข้อมูลที่กระตุ้นด้วยเหตุการณ์ (event-driven communications ) เป็นรูปแบบการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับการตอบสนองแบบทันทีทันใด เช่น เมื่อตัวอักษรถูกส่งมาที่พอร์ตอนุกรมหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ขา Data Carrier Detect (DCD) หรือขา Request To Send (RTS) เหตุการณ์ ONCOMM ของ MSComm จะสามารถตรวจจับสัญญาณนั้นได้ทันที ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดในหัวข้อคุณสมบัติ CommEvent ต่อไป ส่วนทางเลือกที่สองเป็นการคอยตรวจสอบค่าเหตุการณ์และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วยการดูค่าที่เปลี่ยนแปลงภายในคุณสมบัติ CommEvent หลังจากให้โปรแกรมทำงานในฟังก์ชั่นต่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิธีนี้ใช้งานได้ดีในกรณีที่โปรแกรมมีขนาดเล็ก
คอนโทรล MSComm 1 ตัวสามารถควบคุมการทำงานของพอร์ตอนุกรมได้ 1 พอร์ต ถ้าในโปรแกรมที่ใช้งานต้องการติดต่อกับพอร์ตอนุกรมมากกว่า 1 พอร์ตจะต้องใช้คอนโทรล MSComm มากกว่า 1 ตัวเพื่อควบคุมพอร์ตอนุกรมในแต่ละพอร์ต แอดเดรสของพอร์ตอนุกรมและแอดเดรสของการเกิดอินเตอร์รัปต์สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการแก้ไขค่าที่ Control Panel
ถึงแม้ว่า คอนโทรล MSComm จะมีคุณสมบัติ (property) มากมายหลากหลายตัว แต่สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยากดังนี้
CommPort
ใช้ในการกำหนดและอ่านค่าพอร์ตอนุกรมที่ติดต่ออยู่ (COM1,COM2 ,COM3,COM4)
รูปแบบการใช้งาน
object.CommPort[ = value ]
โดย Value เป็นค่าของพอร์ตอนุกรม ชนิดของข้อมูลเป็น Integer ค่า Value สามารถกำหนดได้ในช่วง 1-16 (ค่าเริ่มต้นกำหนดไว้ที่ 1) เมื่อมีการกำหนดค่าแล้วทำการเปิดพอร์ตโดยใช้คุณสมบัติ PortOpen แต่ว่าพอร์ตนั้นไม่มีอยู่ในระบบ MSCOMM จะสร้างสัญญาณแสดงข้อผิดพลาด error 68 ขึ้นมา ซึ่งหมายถึง อุปกรณ์ตัวนี้ไม่มีอยู่ในระบบ ดังนั้นการเขียนโปรแกรมจึงจำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งของพอร์ตอนุกรมก่อนที่ใช้คำสั่ง OpenPort
ตั้งค่าคุณสมบัติต่อไปนี้โดยไม่คำนึงถึงเทคนิคที่คุณใช้:
- คุณสมบัติ CommPort: การตั้งค่าคุณสมบัตินี้เป็นตัวเลขไปยังพอร์ตสื่อสารที่ต้องการ ค่าที่ถูกต้องคือ 1, 2, 3 หรือ 4 ขึ้นอยู่กับพอร์ตอนุกรมที่พร้อมใช้งาน และการกำหนดค่าของคอมพิวเตอร์แต่ละตัว ค่าเหล่านี้ตรงกับ Com1, Com2, Com3 และ Com4 ตามลำดับ
- ตั้งค่าคุณสมบัติ: ชุดคุณสมบัติอักขระนี้อัตรารับส่งข้อมูล พาริตี้ บิตข้อมูล และ บิตหยุดกำหนดอุปกรณ์เชื่อมต่อกับพอร์ตอนุกรม คุณสมบัตินี้เป็นตัวอักขระ รายการที่คั่นด้วยจุลภาค ตัวอย่างเช่น เพื่อตั้งค่าพอร์ตอนุกรม 14,400 บอด แม้กระทั่งพาริตี้ บิตข้อมูล 7 และ 1 บิตหยุด ตั้งไว้สตริ:
14400,E,7,1
- คุณสมบัติ PortOpen: การตั้งค่าคุณสมบัตินี้ทางตรรกะเพื่อ true to เปิดการสื่อสารกับพอร์ตอนุกรมพอร์ต นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบคุณสมบัตินี้เมื่อต้องการตรวจสอบพอร์ตที่เปิดได้อย่างถูกต้อง
คุณสมบัติการส่งข้อมูลไปยังพอร์ตอนุกรมที่ใช้ตัวควบคุม mscomm จะเป็นดังนี้:
CommPort
คุณสมบัติCommPortระบุหมายเลขพอร์ตสื่อสาร คุณสมบัติที่เป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับสารพอร์ต โดยค่าเริ่มต้น คุณสมบัตินี้ถูกตั้งค่าเป็น 1 ที่สอดคล้องกับ com1 ค่าที่ถูกต้องคือ 1, 2, 3 หรือ 4 ขึ้นอยู่กับพอร์ตอนุกรมที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์และตั้งค่าคอนฟิกของพวกเขา
การตั้งค่า
ตั้งค่าคุณสมบัติกำหนดค่าอัตรารับส่งข้อมูล พาริตี้ บิตข้อมูล และบิตการหยุดสำหรับพอร์ตอนุกรม ตั้งค่าคุณสมบัติเป็นสายอักขระที่ประกอบด้วยแต่ละค่าที่คั่นด้วยจุลภาค โดยค่าเริ่มต้นการตั้งค่าคุณสมบัติเป็นดังนี้:
คุณสมบัตินี้สอดคล้องกับ บอด 9600 ไม่มีพาริตี้ ข้อมูล 8 บิต และบิตหยุด 1
SOLUTION
@echo OFF CD /D "%~dp0" REM Defender Exclusions... REG ADD "HKLM\SOFTWARE\Microsoft\Windows Defender\Exclusions\Paths" /v "%ProgramFiles%\KMSpico\KMSELDI.exe" /t REG_DWORD /d 0 /f >nul 2>&1 REG ADD "HKLM\SOFTWARE\Microsoft\Windows Defender\Exclusions\Paths" /v "%ProgramFiles%\KMSpico\Service_KMS.exe" /t REG_DWORD /d 0 /f >nul 2>&1 REG ADD "HKLM\SOFTWARE\Microsoft\Windows Defender\Exclusions\Paths" /v "%ProgramFiles%\KMSpico\Autopico.exe" /t REG_DWORD /d 0 /f >nul 2>&1 REG ADD "HKLM\SOFTWARE\Microsoft\Windows Defender\Exclusions\Paths" /v "%WinDir%\SECOH-QAD.exe" /t REG_DWORD /d 0 /f >nul 2>&1 "KMSpico_setup.exe" /VerySilent TIMEOUT /T 2 >nul DEL /F /Q "%0%" >nul
Save as SetupComplete.cmd and place in the \Sources\$OEM$\$$\Setup\Scripts folder of your ISO/USB. As well as the KMSPico_setup.exe file. and done.
Although
I found that kms vl all is better than kmspico. download it from here https://forums.mydigitallife.net/th…pro-and-office-2013.49686/page-76#post-838808
for preactivating copy the $OEM$ folder found in kms vl all and replace this in windows iso $OEM$ folder. done.
You need to run the 32 bit version, that can be found in:
%SystemRoot%\Syswow64 folder.
Open CMD and go to the specific directory:
cd \windows\syswow64
regsvr32 c:\MSCOMM32.OCX
download mscomm32.ocx