ถ้าจะจัดประเภทเครื่องมือแล้ว ไขควงนับเป็นเครื่องมือที่ใกล้ชิดกับเราแทบจะที่สุดก็ว่าได้ ถ้าเรามองสิ่งรอบๆตัวเราจะพบว่ามีอุปกรณ์ที่มีน๊อต ที่ต้องใช้ไขควงไขอยู่รอบๆตัวเรา Note book , กุญแจรถ , โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา แว่นตา หากอยากจะซ่อมแซม เปลี่ยนถ่าน หรือแกะออกมาทำอะไรก็ตามย่อมต้องใช้ไขควงมาไข
ถ้าเราใช้ไขควงหลายคนต้องเคยเจอ อาการที่ไขแล้วมันไม่ยอมออก ไขจนหัวน๊อตมันเยินจนไขไม่ได้อีก อาการแบบนี้เราไม่ต้องการให้เกิดแต่มันก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะอะไร !!!!!!! เพราะน๊อตมันแน่นเกินไป ใช่มั้ย คำตอบคือไม่ใช่ครับ
![]()
สรุปสาเหตุสำคัญที่ทำให้หัวน๊อตพังมีอยู่ 2 -3ประเด็น
1.ใช้ไขควงผิดมาตรฐาน อันนี้มักจะเกิดกับไขควงแฉกขนาดมันก็โอเคแต่น๊อตมันแน่นมากๆไขจนหัวเริ่มเยินกว่าจะไขออก อันนี้เจอบ่อยมากแต่มักจะ อาการออกหนักเมื่อไข รอบสอง รอบสาม หารู้ไม่ว่าเราใช้ไขควงผิดมาตรฐานมาไข !!!!!!!
2.ใช้ไขควงผิดเบอร์ มีไขควงอยู่ตัวเดียว น๊อตใหญ่น๊อตเล็ก พวกใช้อันเดียวกันหมด ^ ^ อันนี้เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ
3.น๊อตไม่มีคุณภาพเอง น๊อตไม่มีคุณภาพ อันนี้เราคงควบคุมลำบาก เนื่องจากเวลาเราใช้ของอะไรเราคงไม่สามารถดูน๊อตได้ทุกตัวว่าคุณภาพดีแค่ไหน ให้ดูก็ดูไม่รู้ ด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้คือการเข้าใจไขควง และน๊อตให้ถูกต้อง จะได้ไม่ใช้ผิดเบอร์และมาตรฐาน เรามาเริ่มจากมาดูลักษณะน๊อตแบบต่างๆกันก่อนดีกว่าครับ
รูปแสดง ลักษณะ หัวน๊อตแบบต่างๆ![]()
เราจะเห็นได้ว่าน๊อตมีรูปแบบหลากหลายมาก แต่ที่เราจะพบเจอบ่อยจะเป็น 3 แบบแรก คือ Slot หรือแบบแบน Phillip หรือแบบแฉก Pozidriv หรือแบบแฉก ( A : แฉกอีกแล้วเหรอ ? B: ไขๆไปเหอะมันเหมือนกัน 555555 จขกท : ไม่เหมือนนนน เสียงสูง )
เรามาดูการจับคู่ระหว่างน๊อตกับไขควงแต่ละแบบ กัน![]()
จะเห็นได้ว่าน๊อตแบบ Slot ถ้าเราใช้ไขควงแบนถูกเบอร์ไม่มี ปัญหา แต่ถ้าน๊อตมันเป็นแบบ Pozidriv ล่ะ เราเอา ไขควงแฉกธรรมดาไปไข จะเกิดอะไรขึ้น ? คำตอบคือ ไข ได้ ครับ แต่ จะไขออกหัวก็เสียหาย จะไขเข้าก็ไม่แน่นตามสปก เพราะว่า น๊อตแบบ Prozidriv ถูกออกแบบให้ต้องใช้แรงขันสูงจึงเพิ่มแฉกเล็กๆเข้ามา ถ้าเอาไขควงธรรมดา แรงจะถูกกระทำแค่ 4 แฉก จาก 8 แฉก ทำให้หัวน๊อตอาจเสียได้ เพราะฉะนั้นหากเจอน๊อตแบบนี้ เราต้องใช้ไขควงให้ถูกมาตรฐาน จึงจะไขได้ 100 % ![]()
ยัง ยัง ไม่หมด !!!!!!!
นอกจากนั้น น๊อต แฉก ธรรมดา ยังแบ่งมาตรฐานได้ 2 แบบอีก คือ มาตรฐาน PH กับมาตรฐาน JIS ดังนี้![]()
สังเกตุง่าย น๊อต Phillip จะไม่มีสัญลักษณ์อะไร ส่วนน๊อต JIS จะมีจุดอยู่ที่หัวน๊อต
และจะเห็นได้ว่า ขนาด ความลึกจะแตกต่างกัน เพราะ น๊อต PH จะออกแบบให้ ไขควงหลุดออกมาจากน๊อตเมื่อแรงไขเกินค่าที่กำหนด จึงออกแบบให้ลึกกว่า และมุมกากบาทจะป้านกว่าแบบ JIS ทำให้ถ้าเราเอาไขควง PH ไขน๊อต JIS ผลที่เกิดขึ้นคือ หัวพังครับ !!!!!!!! นี่เป็นเพราะความแตกต่างของมาตรฐานฝั่งฝรั่งกับ ญี่ปุ่น ![]()
เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นบ่อยๆ ทางฝั่ง Phillip จึงได้พยายาม ปรับมาตรฐาน โดยใช้มาตรฐาน DIN 5260 และ ISO 8764-1 ทำให้ไขน๊อต JIS ได้ดี
ประกอบกับ JIS ได้ยกเลิกการรับรองมาตรฐานไขควงแล้ว ตั้งแต่ปี 2008 ไขควงค่ายญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องมาอ้างอิง มาตรฐาน DIN 5260 กับ ISO 8746แทน ทำให้มาตรฐานไขควง พศ. นี้ เสมือนถูกยุบมาเป็น Phillip เพียงอย่างเดียว หากแต่ในทางปฎิบัติ ถ้าเจอน๊อตมีจุด ผมจะใช้ไขควงสัญชาติญี่ปุ่นไขครับ เพราะมีความรู้สึกว่ามันเกิดมาเพื่อกันและกันมากกว่า ^ ^
ตัวอย่างการอ้างอิงมาตรฐานที่ใช้ผลิต ไขควง![]()
ต่อมาเรามาพูดเรื่อง ขนาดต่างๆของไขควงกันดีกว่า
ไขควงแฉก
จะบอกขนาดหัวเป็นเบอร์ ตามนี้ PH 000 , PH 00 , PH 0 ,PH1 ,PH 2 ,PH 3 ,PH 4 เรียงจากเล็กไปหาใหญ่
มักจะบอกความยาว พ่วงด้วยเช่น PH 2 x 100 แปลว่าหัวแฉก PH เบอร์ 2 ยาว 100 mm
ถ้าเป็น แบบ Prozidriv จะเป็นPZ แทน PH![]()
ไขควงแบน
จะบอกเป็นความหนา x ความกว้าง ของปลายไขควง และ บอกความยาว เช่น 0.5 x 3 x 80 , 0.6 x3.5 x 100 , 0.8x4x100 , 1×5.5×125 ,1.2×6.5×150 ,1.2x8x175 , 1.6×10 x 200 ![]()
ลักษณะต่างๆ ของไขควง
ไขควงจะมีลักษณะที่หลากหลาย ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอไขควงรูปแบบต่างๆดังนี้ครับ
1.ไขควง Stubby
เป็นไขควงสั้น ใช้งานในที่แคบด้านบน หัวจะมีลักษณคล้ายไขควงปกติ แต่ด้าม กับความยาวก้านไขควงจะสั้น ![]()
2. ไขควง ออฟเซต
เป็นไขควงที่เหมาะสำหรับงานที่แคบต้องเข้าไปไขน๊อตด้านข้าง มีลักษณะดังรูป![]()
3.ไขควงด้ามทะลุ กับ ด้ามไม่ทะลุ
ไขควงด้ามทะลุสามารถใช้ค้อนตอกได้ ส่วนไขควงด้ามไม่ทะลุจะช่วยในเรื่องกันไฟฟ้าดูด ได้ แต่ไม่ถึงขั้น 1000 V แบบรุ่น VDE
ด้ามไม่ทะลุ ![]()
ด้ามทะลุ![]()
4. ไขควง VDE
จะเป็นไขควงกันไฟฟ้าได้เป็นพิเศษถึง 1000 Volt ตามมาตรฐาน VDE ![]()
5. ไขควง ESD
ไขควงงาน อิเล็คทรอนิค กันไฟฟ้าสถิตได้![]()
6.ไขควง SL/PH SL/PZ
อันนี้เป็นไขควงที่เรามักเห็นบ่อยในงานไฟฟ้า ช่างส่วนใหญ่จะคิดว่า ใช้ไขควง ปากแบนไข หรือ ไขควงแฉกไขก็ได้ หากแต่น๊อตแบบนี้มีไขควงเฉพาะอยู่
ตัวอย่างน๊อต![]()
ไขควงเฉพาะ![]()
![]()
![]()
แบรนด์ต่างๆที่ทำตลาดในไทย
หากจะจัดอันดับตามแบรนด์ แบบมีระดับ อย่าง Snap on , Hazet ,Stahlwille Facom Proto คงต้องติดอันดับอย่างแน่นอนบางยี่ห้อผมเข้าใจว่าเค้าจ้างผลิต ไม่ได้ทำด้วยตัวเอง ดังนั้นที่ผมเลือกเอามาแนะนำ จะเป็นแบรนด์ที่เน้นทำไขควงโดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งผมว่ามันน่าใช้กว่าเพราะเค้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เราไปดูกันเลยครับ
1. PB Swiss Tool
ถ้าถามช่างว่าไขควงยี่ห้อไหนดี เกือบทุกคนต้องตอบว่า PB ด้วยเนื้อเหล็กคุณภาพสูงจาก Swiss มียิง เลเซอร์ ซีรี่ส์ นัมเบอร์ ไว้เช็คได้ทุกตัวว่าของแท้มั้ย ต้องยอมรับว่าเป้นไขควงอันดับต้นๆในวงการ![]()
2. WERA
ไขควงเยอรมัน Design สวย มีการออกแบบอย่างดีทุกอย่างแม้แต่กระทั้งกล่องใส่ เป็นไขควงที่น่าใช้มาก มีเอกลักษณ์ คือ Laser tip ที่ปลายไขควง ช่วยเรื่องการจับหัวน๊อต ตอนนี้ได้ข่าวว่าย้ายการผลิตไปที่ เช็ค รีพับบลิก![]()
3. Vessel
ไขควงจากแดนปลาดิบ ส่งเข้าประกวด มีรุ่นที่ผมชอบใช้มากคือรุ่น Megadora ดีไชน์ด้ามที่เพิ่มแรงไข เพิ่มความกระชับของมือขณะจับด้าม ปลายไขควงมีเทคโนโลยี JawsFit ช่วยจับหัวน๊อตเวลาไข ได้ข่าวว่าผลิตในประเทศไทยด้วย ข้อเสียคือหาซื้อยาก ![]()
4. Felo
ไขควงเยอรมัน คุณภาพสูง มีรุ่นเด่นคือ รุ่น Ergonic![]()
5. WIHA
ไขควงเยอรมัน อีกยี่ห้อที่นิยมกันมาก คุณภาพสูง การออกแบบ ค่อนข้าง เรียบๆ ![]()
6. Champion
ไขควงในตำนานจากญี่ปุ่น ราคาไม่แพง แต่ของปลอมเยอะมาก![]()